กลายเป็นดราม่า มวย ที่เจ้าของงานจะเปลี่ยนชื่อเป็น “กุน ขแมร์” ในซีเกมส์ 2023 ซึ่งในความเป็นจริงแล้วกีฬาชนิดนี้ คือกีฬาพื้นบ้านที่ผู้จัดงานนั้นหวังจะฉกฉวยเหรียญทองเพื่ออันดับที่ดีที่สุด
จากกรณีที่ กัมพูชา เจ้าภาพจัดการแข่งขัน กีฬาซีเกมส์ระหว่างวันที่ 4-17 เดือนพฤษภาคม จะมีการจัดแข่งขันมวย ที่จะใช้ชื่อว่า “กุน ขแมร์” กีฬาที่มีต้นกำเนิดมาจากศิลป์การต่อสู้ป้องกันตัวของประเทศภายใต้องค์กรที่ตั้งขึ้นเองที่มีชื่อว่า สหพันธ์กุน ขแมร์นานาชาติ
เพื่อดูแลการแข่งขันซีเกมส์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซึ่งทางด้านสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ (อิฟม่า) ชี้ว่าองค์กรและกีฬาชนิดนี้ของกัมพูชา ไม่ได้เป็นกีฬาที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) และก็สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ)
ทำให้ไทยไม่สามารถส่งแข่งขันได้ เพราะว่าผิดระเบียบปฏิบัติการแข่งขัน ไทยก็เลยตัดสินใจไม่ส่งนักมวยไปแข่งขัน
ไม่เพียงแต่การที่จะเปลี่ยนชื่อ การจัดแข่งขันมวยที่จะใช้ชื่อว่า “กุน ขแมร์”
แต่หากลงรายละเอียด ในการเป็นเจ้าภาพ เป็นเรื่องปกติที่ชาติเจ้าของงานพร้อมใส่กีฬาพื้นบ้าน เพื่อโอกาสที่จะได้โกยเหรียญรางวัลให้เพิ่มมากขึ้น และก็บางครั้งอาจมีผลต่อการครองเจ้าเหรียญทอง ซึ่งซีเกมส์ของกัมพูชา นั้นยังได้มีการบรรจุ คุน ละบ๊อกกาตาว (Lbokkator หรือ Bokator)
แล้วก็ “กุน ขแมร์” (มวยเขมร) KUN KHMER ที่เป็นกีฬาพื้นบ้านของอยู่ในการชิงชัยเหรียญทอง ยังไม่นับรวมกีฬา หมากรุกเขมร หรือ ศิลปะการต่อสู้เกาหลี ซึ่งในซีเกมส์คราวนี้ยังจัดว่ามีการชิงชัยเหรีญมากที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 608 เหรียญทอง จาก 40 ชนิดกีฬาด้วยกัน
คุน ละบ๊อกกาตาว (Lbokkator หรือ Bokator) ที่แปลเป็นภาษาพื้นบ้าน หมายความว่า “ทุบสิงโต” เป็นมวยเขมร รุ่นเฉพาะที่ได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีลักษณะการต่อสู้ แบบตัวต่อตัว พร้อมทั้งการใช้อาวุธอย่างหนัก ศอกและเข่า การเตะหน้าแข้ง แล้วก็การต่อสู้บนพื้นที่ หลากหลาย แล้วก็จะมีสีรอบเอวเพื่อแสดงถึงระดับของพวกเขา
ชั้นแรกเป็นสีขาว และก็ตามด้วยสีเขียว น้ำเงิน แดง น้ำตาล แล้วก็สุดท้ายเป็นสีดำ ยิ่งกว่านั้น ยังมีการสวมสาย ที่เป็นผ้าไหม รอบศีรษะ ศิลปะชนิดนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม หรือ มรดกทางวัฒนธรรม ที่จับต้องไม่ได้ ของยูเนสโก ไปเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2022
ขณะที่กุน ขแมร์ (มวยเขมร) KUN KHMER หรือชื่อที่เรียก อย่างเป็นทางการ Kbach Kun Pradal Khmer ที่มีความหมายว่า “การต่อสู้อย่างอิสระ” มีลักษณะคล้าย กับยูโด แต่ไม่ใช่คาราเต้ เป็นรูปแบบคิกบ็อกซิ่งที่สืบเชื้อสาย มาจากเทคนิคการต่อ สู้ของเขมรในยุคแรก การต่อสู้มีเป้าหมายคือ ทำให้คู่ต่อสู้ น็อค ทางเทคนิคหรือชนะ การแข่งขันด้วยคะแนน รวมทั้งมักจะใช้ศอกในการน็อกมากที่สุด
ย้อนไปใน การแข่งขันซีเกมส์ 2021 หรือครั้งที่ 31 ซึ่งเวียดนามเป็นเจ้าภาพ
ก็ได้มีการบรรจุกีฬาพื้นบ้านที่ ธรรมนูญซีเกมส์ ซึ่งกำหนดโดยสหพันธ์ กีฬาซีเกมส์ ได้ให้ประเทศเจ้าของงานจัดแข่งได้ 8-12 ชนิดกีฬา นั่นก็คือ โววีนัม,ฟินสวิมมิ่ง, หมากรุก,หมากรุกจีน และ มวยปล้ำ
ไม่เพียงแค่ แต่ 2 ชาติที่กล่าวมา ย้อนไปในปี กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 14 หรือในปี 2007 อินโดนีเซีย ได้นำ “ปันจักสีลัต” หรือ ศิลปะการป้องกันตัวที่คนเชื้อสายมาลายู ซึ่งเป็นกีฬาพื้นบ้านชนิดแรก ๆ เข้ามาให้แข่งขันรวมทั้งเผยแพร่ให้ชาติอาเซียน ได้ชิงชัยกัน
ด้าน ฟิลิปปินส์ เป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 23 และ 30 ก็ได้นำศิลปะการ ต่อสู้ประจำชาติ อย่าง อาร์นิส ที่่เป็นการต่อสู้และการป้องกันตัวโดยการใช้อาวุธประเภทต่าง ๆ อาทิ มีดสั้น, ขอนไม้ แล้วก็กระบี่ เข้ามาชิงชัยเหรียญทอง
หรือถึงแม้แต่ เมียนมา ที่เป็นเจ้าภาพในครั้งล่าสุดในปี 2013 ก็ได้นำ ชินลง หรือ ที่คล้าย ตะกร้อวงในบ้านเรา แต่เป็นลีลาสไตล์เมียนมา เข้ามาใส่ในการแข่งขัน
ขณะที่ประเทศไทย อย่างเรา ที่ผ่านมา ถ้าหากได้รับโอกาสเป็นเจ้าภาพ กีฬามวยไทย ก็ถือว่าอยู่ในข่าย ที่จะถูกนำมาบรรจุเพื่อโกยเหรียญทองในการไปสู่เป้าหมายเช่นเดียวกัน